ติดต่อเราInvestorsCareersMediaScienceContact Us

ภาวะไขมันในเลือดสูง

การพัฒนาวิธีการรักษาแบบใหม่เพื่อต่อสู้กับภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง

หน้าหลักวิทยาศาสตร์โรคและเงื่อนไขภาวะไขมันในเลือดสูง

ข้อมูลการศึกษาโรค

ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเป็นภาวะปกติที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง ซึ่งเป็นไขมันชนิดหนึ่งในกระแสเลือด 1 บุคคลที่มีภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง (SHTG) รุนแรงจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์มากกว่าระดับปกติถึง 3 เท่า2 ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงสามารถนำไปสู่ภาวะที่ร้ายแรงได้หลายประการ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) และตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน1 ไฟเซอร์มีเป้าหมายเพื่อช่วยแก้ปัญหา ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงผ่านการพัฒนายาใหม่ๆ ที่มุ่งลดระดับไตรกลีเซอไรด์เพื่อลดผลกระทบของภาวะร้ายแรงนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไปป์ไลน์ของเราด้านล่าง

ภาวะไขมันในเลือดสูงรุนแรง คืออะไร

Hypertriglyceridemia เป็นภาวะที่พบบ่อย ซึ่งหมายถึงการมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง (สูงกว่า 150 mg/dL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดหนึ่งในกระแสเลือด1 Hypertriglyceridemia สามารถนําไปสู่ภาวะการรวมตัวของหลอดเลือดแดง (แข็งตัวของหลอดเลือดแดง) โรคอ้วน และความต้านทานต่ออินซูลิน ซึ่งทั้งหมดสามารถนําไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD)1,3 พบในผู้ใหญ่มากกว่า 2.1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาที่มีภาวะ hypertriglyceridemia รุนแรง (SHTG) 4 ซึ่งหมายถึงการมีระดับไตรกลีเซอไรด์มากกว่า 500 mg/dL.2 นอกเหนือจากการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันซึ่งเป็นภาวะที่คุกคามต่อชีวิต5,6

ใครเป็นโรคไขมันในเลือดสูงรุนแรง และเป็นได้อย่าง ไร

ปัจจัยเสี่ยงสําหรับภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงอาจรวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม โรคอ้วน โรคเบาหวาน ที่ไม่ได้รับการรักษาและการใช้ยาบางชนิด7

อาการของโรคไขมันในเลือดสูงรุนแรงมีอะไรบ้าง

ในขณะที่ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมักไม่ก่อให้เกิดอาการที่เห็นได้ชัดเจน แต่ผู้ที่มีไตรกลีเซอไรด์ในระดับสูงมาก (มากกว่า 2,000 mg/dL) สามารถพบอาการปวดท้องกําเริบ คลื่นไส้ อาเจียน ตุ่มก้อนสีเหลืองตามเส้นเอ็นที่มือ หัวเข่าหรือ ที่ข้อเท้า (tendon xanthoma) หรือมีปื้นสีเหลืองบริเวณหัวตา (xanthelasma) และตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน1,4

วินิจฉัยภาวะไขมันในเลือดสูงรุนแรงอย่างไร

โดยทั่วไปภาวะไขมันในเลือดสูงจะได้รับการวินิจฉัยหลังจากการตรวจเลือดเป็นประจําที่เรียกว่าโปรไฟล์ไขมัน1 โปรแกรมการศึกษาคอเลสเตอรอลแห่งชาติแนะนําให้ทุกคนมีโปรไฟล์ไขมันที่ทําทุก 5 ปี เริ่มต้นที่อายุ 201 อย่างไรก็ตาม สําหรับผู้ที่มีหรือมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ขอแนะนําให้มีโปรไฟล์ไขมันทําทุกปี1

ภาวะไขมันในเลือดสูงรุนแรงสามารถป้องกันหรือรักษาได้หรือไม่

มีหลายวิธีในการป้องกันและรักษา การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะไขมันในเลือดสูง ได้แก่ การลดปริมาณการบริโภคไขมันและคาร์โบไฮเดรต ลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเลิกสูบบุหรี่1 สําหรับบางคนการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไม่เพียงพอที่จะลดไตรกลีเซอไรด์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทําให้มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติม1 ในกรณีเหล่านี้มีการบําบัดทางเภสัชวิทยาที่สามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพ1

เป้าหมายของการรักษาพยาบาลสําหรับภาวะไขมันในเลือดสูง คือการลดระดับไตรกลีเซอไรด์เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน5ยาลดไขมันในเลือด  Statins สามารถใช้เพื่อลดไตรกลีเซอไรด์ แต่เกือบหนึ่งในสามของคนที่รับการรักษาประเภทนี้ยังคงมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง4 นักวิทยาศาสตร์ไฟเซอร์มุ่งมั่นที่จะจัดการกับภาวะไขมันในเลือดสูง โดยการพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ที่สามารถปรับปรุงการลดไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดเพื่อช่วยลดผลกระทบของภาวะร้ายแรงนี้

อ้างอิง

  1. Pejic RN and Lee DT. Hypertriglyceridemia. The Journal of the American Board of Family Medicine. May 2006, 19 (3) 310-316; doi: https://doi.org/10.3122/jabfm.19.3.310.

  2. American College of Cardiology. Hypertriglyceridemia Management According to the 2018 AHA/ACC Guideline. https://www.acc.org/latest-in-cardiology/articles/2019/01/11/07/39/hypertriglyceridemia-management-according-to-the-2018-aha-acc-guideline. Published Jan. 11, 2019. Accessed October 14, 2020.

  3. Nordestgaard BG and Varbo A. Triglycerides and cardiovascular disease. The Lancet. August 2014, 384(9943) 626-635; doi: https://doi.org/10.1016/S0140-6736(14)61177-6

  4. Fan, Wenjun et al. “Hypertriglyceridemia in Statin-Treated US Adults: The National Health and Nutrition Examination Survey” Journal of Clinical Lipidology (2019) 13, 100–108.

  5.  Laufs, Ulrich et al. “Clinical review on triglycerides.” European Heart Journal, January 2020, 41(1): 99–109c; https://doi.org/10.1093/eurheartj/ehz785

  6. Wang, Guo-Jun et al. “Acute pancreatitis: etiology and common pathogenesis.” World journal of gastroenterology vol. 15,12 (2009): 1427-30. doi:10.3748/wjg.15.1427

  7. Ewald, Nils, and Hans-Ulrich Kloer. “Treatment options for severe hypertriglyceridemia (SHTG): the role of apheresis.” Clinical research in cardiology supplements vol. 7,Suppl 1 (2012): 31-5. doi:10.1007/s11789-012-0042-x

PP-UNP-THA-0365
ร่วมงานกับเรา เงื่อนไขการใช้บริการ นโยบายความเป็นส่วนตัวโปรดปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคหรือการใช้ยา
 
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 1 อาคารพาร์ค สีลม ชั้น 27 ห้อง 2701-2704 และ 2707-2708 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 02-761-4555
 
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอสงวนสิทธิในลิขสิทธิ์ทั้งปวง ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในไซต์นี้มีไว้เฉพาะเพื่อบุคคลซึ่งมีถิ่นที่ อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ฉลากผลิตภัณฑ์และเอกสารกำกับยาของ ผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวถึงในไซต์นี้อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท ไฟเซอร์เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ที่มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาสุขภาพของ บุคคลโดยการวิจัยและพัฒนายา
 
Copyright © Pfizer (Thailand) Limited. All rights reserved.