Contact UsInvestorsCareersMediaScienceContact Us ติดต่อเราInvestorsCareersMediaScienceContact Us

ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง

เรียนรู้เกี่ยวกับความดันโลหิตสูงในปอดหรือภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง (PAH) ที่ Pfizer.com สํารวจอาการและการรักษาความดันโลหิตสูงในปอด
หน้าหลักวิทยาศาสตร์โรคและเงื่อนไขภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง

ข้อมูลการศึกษาโรค

ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง (Pulmonary Hypertension หรือ Pulmonary Arterial Hypertension) เป็นโรคเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งสามารถนำไปสู่​ภาวะหัวใจล้มเหลวได้หากไม่ได้รับการรักษา1 นักวิจัยของไฟเซอร์กําลังทํางานเพื่อพัฒนาการรักษาใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสําหรับโรคนี้

ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงคืออะไร​

ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง เป็นโรคเรื้อรังที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ผนังหลอดเลือดปอดแข็งตัว เพิ่มความดันโลหิต ผู้ที่มีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง หัวใจด้านขวาจะต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดผ่านหลอดเลือดที่แคบลงในปอด2 และในที่สุดจะทำให้หัวใจขยายตัวขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง ส่งผลให้ความสามารถของหัวใจในการสูบฉีดเลือดเข้าสู่ปอดและส่วนอื่นๆ ของร่างกายลดลง1 ในกรณีที่ไม่ทราบสาเหตุการเกิดจัดเป็น “Idiopathic PAH”3 ส่วน “Heritable PAH” มีสาเหตุการเกิดจากพันธุกรรม4 และสำหรับ “Associated PAH” เป็นภาวะ PAH ที่เกิดร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น ​scleroderma โรคหัวใจพิการแต่กําเนิด โรคลูปัส หรือเอชไอวี1,5 ที่พบได้ยากคือ “Chronic Thromboembolic Pulmonary Hypertension (CTEPH)” ซึ่งเกิดจากลิ่มเลือดเก่าอุดตันในปอด​​​​​

ใครที่อาจเป็นโรคความดันหลอดเลือดปอดสูง​

ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงเป็นโรคที่พบได้น้อย โดยมีผู้ป่วย 15 ถึง 50 รายต่อประชากรล้านคน7 ความชุกของโรคจะสูงในผู้ป่วยบางกลุ่มที่มีโรคร่วมอื่นๆ8 ตัวอย่างเช่น ในผู้ป่วยโรคโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงรูปเคียว มีความชุกของโรคอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2 ถึง 3.75​9 ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงส่งผลกระทบต่อคนทุกวัยและทุกเชื้อชาติ ​​​​​​​1 แม้ว่าทุกคนจะมีโอกาสเกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงได้ แต่ปัจจัยเสียงต่อไปนี้อาจทำให้บางคนมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น​​​​​​​​1,10,11

  • ประวัติครอบครัว: หากมีสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง หรือมีสมาชิกในครอบครัวที่ทราบว่ามีการกลายพันธุ์ของยีนที่ก่อให้เกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง​ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้จะสูงขึ้น จึงควรมีการให้คำปรึกษาแนะนำทางพันธุศาสตร์​

  • โรคอ้วนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคอ้วนเพียงอย่างเดียวไม่ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่หากรวมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจทำให้เกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดระดับเล็กน้อยได้

  • เพศ: ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง Idiopathic และ Heritable (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Familial PAH) พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างน้อย 2.5 เท่า​และพบความเสี่ยงมากขึ้นในหญิงวัยเจริญพันธุ์

  • การตั้งครรภ์: การตั้งครรภ์อาจเป็นปัจจัยเสี่ยง ผู้หญิงที่มีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงอยู่แล้วและตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูงมากที่จะ​เสียชีวิต

  • ระดับความสูง: การอยู่อาศัยในพื้นที่สูงเป็นเวลาหลายปีอาจทำให้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง เมื่อผู้ป่วยเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความสูงมากอาการของ​ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงอาจแย่ลง

  • โรคอื่นๆ : โรคอื่นๆ เช่นโรคหัวใจพิการแต่กําเนิด, โรคปอด, โรคตับ, และโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น scleroderma และโรคลูปัส อาจนำไปสู่การเกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงได้

  • ยาและสารพิษ: การใช้ยาบางชนิด เช่น เมทแอมเฟตามีน และยาลดน้ำหนัก “fen phen” เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง

อาการของภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงเป็นอย่างไร

ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงเป็นอย่างไร เช่น หายใจถี่ เวียนศีรษะ และอ่อนเพลีย ความรุนแรงของอาการมักสัมพันธ์กับการดำเนินของโรค1​​​​​​​

อาการอื่นๆ ได้แก่: 1,11

  • เจ็บหน้าอก (Angina Pectoris​)

  • เวียนศีรษะ

  • เป็นลม (syncope)

  • การสูญเสียพลังงาน

  • อาการบวมของแขน ขา ข้อเท้า หรือช่องท้อง (Edema)

  • ไอแห้ง

  • กลุ่มอาการเรย์โนด์ (นิ้วมือซีดหรือมีสีฟ้าขาว มีอาการเจ็บปวดและอาจเกิดขึ้นได้เมื่อสัมผัสกับความเย็น​)

ในระยะที่โรคลุกลาม การทำกิจกรรมเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ ผู้ป่วยในระยะลุกลามอาจมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชีพจรเต้นเร็ว เป็นลมหมดสติ และหายใจลำบากแม้ในขณะพัก​

การวินิจฉัยภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงทำได้อย่างไร​

การวินิจฉัยภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงสามารถทำได้หลายวิธี การตรวจเลือดอาจใช้เพื่อตรวจสอบระดับออกซิเจนและการทํางานของตับและไตรวมถึงการตรวจหาการมีอยู่ของโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ปัญหาของต่อมไทรอยด์​ สัญญาณของการติดเชื้อ หรือแอนติบอดีของเชื้อเอชไอวี​​10,11,12

การทดสอบหนึ่งสามารถตรวจสอบระดับของเปปไทด์ natriuretic สมองเพื่อประเมินความเครียดในหัวใจและตรวจสอบการตอบสนองของการรักษา นอกจากนี้ การเอ็กซเรย์ทรวงอกสามารถนำมาใช้เพื่อตรวจสอบโพรงด้านขวาของหัวใจและหลอดเลือดปอดเพื่อหาสัญญาณของการขยายตัว​ รวมทั้งสามารถตรวจสอบการมีอยู่ของโรคถุงลมโป่งพองหรือผังผืดภายในปอด (Interstitial fibrosis) ได้อีกด้วย​ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือการตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนเสียงความถี่สูงยังสามารถใช้ตรวจสอบการทำงานของหัวใจได้​​​​​​​​10

เพื่อมุ่งเน้นไปที่ปอด การทดสอบการทํางานของปอดจะวัดความจุออกซิเจนในปอดและความสามารถในการแลกเปลี่ยนออกซิเจน การสแกนปอดแบบนิวเคลียร์ (เรียกอีกชื่อว่า Ventilation/Perfusion หรือ V/Q scan) ​การทดสอบการมีอยู่ของลิ่มเลือดในปอดโดยการสร้างภาพการไหลของอาการและเลือดไปยังปอด10 ด้วยการทดสอบนี้ ผู้ป่วยจะสูดเอา radioactive marker ผ่านจมูกเข้าไป ในขณะที่อีกปริมาณหนึ่งจะถูกฉีดเข้าไปทางหลอดเลือดเพื่อให้สามารถถ่ายภาพของปอดได้ โดยภาพที่ได้จะช่วยให้แพทย์สสามารถตรวจดูสุขภาพของปอดได้​​​​​​​​13

นอกจากนี้ อาจต้องทำการทดสอบ 6-minute stress test เพื่อทดสอบสมรรถภาพในการทนต่อการออกกำลังของผู้ป่วย14

หนึ่งในการตรวจเพื่อวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุดสําหรับภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง คือ การใส่สายสวนหัวใจห้องขวา ซึ่งจะวัด​ความดันภายในหลอดเลือดแดงปอดของผู้ป่วยโดยตรง โดยผู้ป่วยที่อาจมีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง ควรจะดําเนินการตรวจอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ในระหว่างการทดสอบ แพทย์จะใส่ท่อยางบางๆ หรือสายสวนผ่านหลอดเลือดดําขนาดใหญ่บริเวณขาหนีบหรือคอของผู้ป่วย จากนั้นจะผ่านสายสวนเข้าไปในหัวใจของผู้ป่วยเพื่อตรวจวัดความดันในหัวใจห้องขวาและปอด15

จำเป็นต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับยาขยายหลอดเลือดในที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง เพื่อตรวจสอบว่าหลอดเลือดในปอดสามารถขยายตัวได้มากน้อยเพียงใดในช่วงเวลาสั้นๆ วัตถุประสงค์หลักคือการคัดกรองผู้ป่วยที่อาจตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาในกลุ่ม calcium channel blockers ​ นอกจากนี้ ยังช่วยใน​การพยากรณ์โรคของผู้ป่วยได้อีกด้วย เมื่อใส่สายสวนหัวใจเข้าไปที่หัวใจห้องขวา​ผู้ป่วยจะได้รับยาที่ช่วยขยายหลอดเลือดแดงในปอด โดยผู้ป่วยจะได้รับยาที่ใช้ทดสอบในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ​จะหยุดหลังจากให้ยาแต่ละครั้งเพื่อดูว่าผู้ป่วยมีการตอบสนองอย่างไร เมื่อผู้ป่วยเกิดการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่สามารถทนต่อผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ จะถือว่าการทดสอบเสร็จสมบูรณ์​16

ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงสามารถรักษาได้หรือไม่

แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาภาวะความดันโลหิตสูงในปอด แต่การรักษาแบบต่างๆ ก็มีไว้เพื่อช่วยจัดการกับโรคและช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นในแต่ละวัน การรักษาแบบทั่วไปรวมถึงการรักษาด้วยแคลเซียมแชนเนลบล็อกเกอร์ซึ่งสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ดิจอกซินซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงการสูบฉีดหัวใจ ยาขับปัสสาวะซึ่งขจัดของเหลวส่วนเกินที่อาจเพิ่มแรงดันต่อหัวใจ ออกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจ วาร์ฟารินซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด​เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นลิ่มเลือด; สารกระตุ้นตัวรับ endothelin ที่ช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดหดตัว​ และสารยับยั้ง phosphodiesterase และ soluble guanylate cyclase​ ที่ช่วยให้ปอดผลิตสารขยายหลอดเลือดตามธรรมชาติเพื่อลดการหดตัวของหลอดเลือด อาจใช้ Prostacyclins เพื่อช่วยบรรเทาอาการหายใจหอบเหนื่อยได้1,11,17

การรักษาเชิงทดลองอาจมีให้สําหรับผู้ป่วยที่มีเข้าร่วมในการทดลองทางคลินิก เมื่อโรคอยู่ในระยะลุกลามมากและดื้อต่อการรักษา อาจแนะนําให้ทำการปลูกถ่ายปอด18 โดยผู้ป่วยควรได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญโรค PAH ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแพทย์ทั่วไปส่วนใหญ่ขาดการฝึกอบรมหรือไม่มีประสบการณ์ที่เพียงพอเกี่ยวกับภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง ​นอกจากนี้ ในทีมรักษาควรมีทั้งแพทย์โรคหัวใจ แพทย์โรคปอด และแพทย์โรคข้อ พยาบาล เภสัชกร และแพทย์ทั่วไปที่ได้รับการฝึกอบรมพิเศษเกี่ยวกับภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง​​

อ้างอิง

  1. National Organization for Rare Disorders. Pulmonary Arterial Hypertension. https://rarediseases.org/rare-diseases/pulmonary-arterial-hypertension/. Accessed February 10, 2020.

  2. Centers for Disease Control and Prevention. Pulmonary Hypertension. https://www.cdc.gov/heartdisease/pulmonary_hypertension.htm. Accessed February 10, 2020.

  3. Pahal P, Sharma S. Idiopathic Pulmonary Artery Hypertension (IPAH) [Updated 2019 Dec 31]. In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2020 Jan-. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK482251/?report=classic

  4. Bertero T, et al. Factors Associated with Heritable Pulmonary Arterial Hypertension Exert Convergent Actions on the miR-130/301-Vascular Matrix Feedback Loop. Int J Mol Sci. 2018;19(8):2289.

  5. Pulmonary Hypertension Association. PH and Lupus. https://phassociation.org/patients/aboutph/diseases-and-conditions-associated-with-ph/lupus/#justdx. Accessed February 10, 2020.

  6. American Lung Association. Chronic Thromboemblic Pulmonary Hypertension (CTEPH). https://www.lung.org/lung-health-and-diseases/lung-disease-lookup/cteph/. Accessed February 10, 2020.

  7. Oldroyd SH, Bhardwaj A. Pulmonary Hypertension. [Updated 2019 May 6]. In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2020 Jan-. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK482463/

  8. Berra G, Soccal P, Lador F, et al. Pulmonary Hypertension in the Elderly: A Different Disease? Breathe (Sheff). 2016;12(1):43-49.

  9. Goncalvesováeva E. Pulmonary Arterial Hypertension Centre – A Model for Rare Disease Management. Eur J Pharm Sci, 2013;60:22-25.

  10. Chest Foundation. Pulmonary Arterial Hypertension (PAH). https://foundation.chestnet.org/patient-education-resources/pah/. Accessed February 10, 2020.

  11. NIH National Heart, Lung, and Blood Institute. Pulmonary Hypertension. https://www.nhlbi.nih.gov/health-topics/pulmonary-hypertension. Accessed February 10, 2020.

  12. Hoeper MM. Pulmonary Hypertension in Collagen Vascular Disease. Eur Respir J. 2002;19:571-576.

  13. NIH National Heart, Lung, and Blood Institute. Lung VQ Scan. https://www.nhlbi.nih.gov/health-topics/lung-vq-scan. Accessed February 10, 2020.

  14. Demir R, Küçükoğlu MS. Six-Minute Walk Test in Pulmonary Arterial Hypertension. Anatol J Cardiol. 2015;15(3):249-254.

  15. Rosenkranz S, Preston I. Right Heart Catheterisation: Best Practice and Pitfalls in Pulmonary Hypertension. Eur Respir J. 2015;24:642-652.

  16. Tonelli A, et al. Pulmonary Vasodilator Testing and Use of Calcium Channel Blockers in Pulmonary Arterial Hypertension. Respir Med. 2010;104(4):481-496.

  17. Lasker G, Maley J, Pankey E, Kadowitz P. Targeting Soluble Guanylate Cyclase for the Treatment of Pulmonary Hypertension. Expert Rev Respir Med. 2011;5(2):153-161.

  18. Bartolome S, Hoeper M, Kleptko W. Advanced Pulmonary Arterial Hypertension: Mechanical Support and Lung Transplantation. Eur Respir J. 2017;26:170089.

PP-UNP-THA-0688​
ร่วมงานกับเรา เงื่อนไขการใช้บริการ นโยบายความเป็นส่วนตัวโปรดปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคหรือการใช้ยา
 
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 1 อาคารพาร์ค สีลม ชั้น 27 ห้อง 2701-2704 และ 2707-2708 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 02-761-4555
 
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอสงวนสิทธิในลิขสิทธิ์ทั้งปวง ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในไซต์นี้มีไว้เฉพาะเพื่อบุคคลซึ่งมีถิ่นที่ อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ฉลากผลิตภัณฑ์และเอกสารกำกับยาของ ผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวถึงในไซต์นี้อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท ไฟเซอร์เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ที่มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาสุขภาพของ บุคคลโดยการวิจัยและพัฒนายา
 
Copyright © Pfizer (Thailand) Limited. All rights reserved.