โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นหนึ่งในภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบได้บ่อยที่สุด ส่งผลกระทบต่อประชากรทุกเพศทุกวัยทั่วโลก
ข้อมูลการศึกษาโรค
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นหนึ่งในภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบได้บ่อยที่สุด ส่งผลกระทบต่อประชากรทุกเพศทุกวัยทั่วโลก1,2 โดยโรคนี้ปรากฏในลักษณะของผื่นหรือรอยโรคที่ผิวหนัง ทําให้เกิดอาการคันและอาจมีอาการรุนแรงขึ้นและกำเริบเป็นระยะๆ โรคนี้เป็นมากกว่า “ผื่น” โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังสามารถเป็นภาวะที่รุนแรงจนกระทบต่อการชีวิตประจำวันของผู้ป่วย และส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้เช่น การนอนไม่หลับ ความรู้สึกอับอาย และการไม่มีสมาธิในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังสามารถจำแนกตามความรุนแรงได้เป็นระดับไม่รุนแรง รุนแรงปานกลาง หรือรุนแรงมาก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขอบเขตและความรุนแรงของของผื่น2
แม้ว่าโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจะไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่มีการรักษาที่สามารถใช้ได้ในปัจจุบันซึ่งมุ่งหวังเพื่อรักษาอาการผื่นและบรรเทาอาการ เช่น การบรรเทาอาการคันซึ่งเป็นอาการเด่นของโรค1,6 อย่างไรก็ตาม ยังมีความต้องการอื่นๆที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างมาก และยังมีความต้องการทางเลือกใหม่ๆ สำหรับการรักษาในระยะยาวที่มีทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัย7
ที่ไฟเซอร์ ผู้ป่วยคือศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอิสระจากความทุกข์ทรมานในชีวิตประจำวันจากโรคอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และความพยายามของเราในการสนับสนุนผู้ป่วยที่ใช้ชีวิตกับภาวะนี้ได้ด้านล่างนี้
เนื่องจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเป็นหนึ่งในภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรังและกลับเป็นซ้ำบ่อยที่สุด โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยคิดเป็นประมาณร้อยละ 10 ของผู้ใหญ่ และประมาณร้อยละ 20 ของเด็ก1,8 ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมีความรุนแรงของโรคอยู่ในระดับปานกลางถึงรุนแรงมาก2,9
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเชื่อว่ามีสาเหตุการเกิดหลายอย่าง รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรม และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคขึ้นในผู้ที่มีพ่อหรือแม่เป็นโรคหืด ไข้ละอองฟาง หรือโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง1
แม้ว่าโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจะสามารถส่งผลกระทบต่อคนทุกเพศและทุกวัยและทุกเพศทั่วโลก แต่ไม่ใช่ทุกกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน1,2,10 ตัวอย่างเช่น ในการศึกษาหนึ่งพบว่า เด็กและผู้ใหญ่ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังแนวโน้มที่จะไม่ใช่คนผิวขาวกว่าคนผิวขาว11
อาการที่พบบ่อยของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ได้แก่1
อาการคัน (pruritus)
ผื่นแดง/ชมพูหรือเปลี่ยนสี
ผื่นหนาแข็ง
ผื่นแห้งหรือเป็นตุ่มนูน
แผลพุพองหรือแผลเปื่อย
อาการเด่นของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังคืออาการคันที่ทำให้เกิดความรำคาญ ซึ่งจากแบบสอบถามหนึ่งพบว่า จากผุ้ป่วย 304 คน ผู้ป่วยร้อยละ 91 รายงานว่าเกิดอาการคันอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน6,12 อาการคันนี้สามารถรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้ เนื่องจากผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมักจะนอนไม่หลับ ซึ่งอาจทําให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้า และส่งผลให้สุขภาพไม่ดีตามมา13
นอกจากภาวะทางร่างกายแล้ว โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังยังสามารถส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาวะทางจิต ทําให้ผู้ป่วยรู้สึกอับอาย หดหู่ ไม่มีความสุข หรือขาดความมั่นใจในตนเอง5 ตัวอย่างเช่น ในการศึกษาหนึ่งพบว่าร้อยละ 43 ของผู้ป่วย 2,002 รายที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในระดับปานกลางถึงรุนแรงประสบกับความกังวลเกี่ยวกับการถูกพบเห็นในที่สาธารณะในช่วงที่มีอาการกำเริบ5 และมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในระดับปานกลางถึงรุนแรงในการศึกษาเดียวกันนี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเขารู้สึกหดหู่ในบางครั้ง5 ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลกระทบที่ “ไม่เห็นได้ชัด” เหล่านี้ด้วย
การใช้ชีวิตกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้ป่วย5 เช่น ผู้ป่วยจํานวนมากหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างในขณะที่มีอาการกำเริบ เช่น การว่ายน้ำ การอาบน้ำ หรือการสวมเสื้อผ้าบางประเภท5 ในการศึกษาเดียวกันนี้ ผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในระดับปานกลางถึงรุนแรงรายงานว่าต้องขาดเรียนหรือหยุดงานประมาณ 2.5 วันต่อปี เนื่องจากอาการป่วยของพวกเขา5 ผลกระทบต่อผู้ดูแล เช่น พ่อหรือแม่ ก็มีความสําคัญเช่นกัน โดยบางคนใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อวันในการจัดการกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังของบุตรหลาน14
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมักได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์โดยการตรวจสอบผิวหนังของผู้ป่วย และทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง15 โดยทั่วไป ไม่จําเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง16 ลักษณะที่จำเป็นในการวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ได้แก่ อาการคัน ตําแหน่ง และลักษณะของผื่น15 ลักษณะที่จำเป็นในการวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ได้แก่ ประวัติส่วนตัวหรือครอบครัวที่เป็นโรคหืด ไข้ละอองฟาง และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ช่วงอายุที่เริ่มมีอาการ และความแห้งของผิวหนัง15
สิ่งสำคัญคือควรติดตามสัญญาณที่เปลี่ยนแปลงไปของผิวหนังในช่วงระหว่างการพบแพทย์ เช่น อาการผื่น และควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับกระทบที่ “ไม่เห็นได้ชัด” ด้วย สําหรับผู้ป่วยที่รับการรักษากับแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์ประจําครอบครัวแล้วอาการของโรคไม่ดีขึ้น ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง
แม้ว่าโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจะไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่มีหลายทางเลือกการรักษาที่สามารถใช้ได้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค1 ได้แก่1
ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกการรักษาที่มีอยู่และสร้างแผนการรักษาร่วมกัน
ยังคงมีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับทางเลือกการรักษาใหม่ๆ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน
อ้างอิง