การต่อต้านการติดเชื้อ: การค้นหาอาวุธใหม่ โรคติดเชื้อ เป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลก
ไฟเซอร์ได้ค้นคว้าและบุกเบิกงานวิจัยเกี่ยวกับ เพนิซิลินตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1940
และยังมีประวัติอันยาวนานในการจัดการกับความเสี่ยงของการเกิดโรค ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
การต่อสู้กับโรคติดเชื้อ
โรคติดเชื้อเกิดจากเชื้อโรคที่บุกรุกร่างกาย
แบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ
การติดเชื้อแบคทีเรียมีตั้งแต่ค่อนข้างน้อย เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนังหรือทางเดินอาหาร จนถึงร้ายแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือดหรือปอดบวม แบคทีเรียส่วนใหญ่จัดอยู่ในประเภทแกรมบวกหรือแกรมลบ
การติดเชื้อรามีตั้งแต่เท้าของนักกีฬาหรือเชื้อราในช่องคลอด ไปจนถึงการติดเชื้อที่คุกคามชีวิตและลุกลามในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็ง
การติดเชื้อไวรัสมีตั้งแต่ไข้หวัดทั่วไปที่หายเองได้ ไปจนถึงการติดเชื้อร้ายแรงในระยะยาว เช่น ไวรัสตับอักเสบซี การฉีดวัคซีนสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่แรก
การติดเชื้อปรสิตสามารถส่งผลกระทบต่อทุกคนได้ทุกที่ แต่เป็นภาระเฉพาะกับคนที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่หรือในโฮสต์ และรวมถึงมาลาเรีย ทอกโซพลาสโมซิส และหนอนในลำไส้
ยาต้านการติดเชื้อเป็นยาที่ทํางานเพื่อช่วยรักษาการติดเชื้อ พวกเขารวมถึงต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และยาต้านจุลชีพ
การต่อต้านการติดเชื้อได้ปฏิวัติการดูแลสุขภาพ
ต้องขอบคุณการบําบัดป้องกันการติดเชื้อตอนนี้เราสามารถ
การติดเชื้อต้านจุลชีพเป็นการติดเชื้อที่เชื้อโรคไม่ตอบสนองต่อการติดเชื้อต้านการติดเชื้อที่ใช้เป็นการรักษาอีกต่อไป
น่าตกใจที่ยาต้านการติดเชื้อจํานวนมากกําลังสูญเสียประสิทธิภาพเนื่องจากการดื้อยาของเชื้อจุลชีพ (Antimicrobial Resistance) ซึ่งในทางกลับกันอาจทําให้การติดเชื้อกลายเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษา
ความต้านทานต่อการต้านจุลชีพ จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อสุขภาพโลกในปัจจุบัน
การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของการดื้อยาของเชื้อจุลชีพ/เชื้อโรค อาจทําให้มีผู้เสียชีวิต 10 ล้านคนทั่วโลกภายในปีพ.ศ. 2593 มากกว่าที่ปัจจุบันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง1
ทรัพยากรยาต้านการติดเชื้อ
Reference
1. de Kraker ME, Stewardson AJ, Harbarth S. Will 10 Million People Die a Year due to Antimicrobial Resistance by 2050? PLoS Med. 2016 Nov 29;13(11):e1002184. doi: 10.1371/journal.pmed.1002184. PMID: 27898664; PMCID: PMC5127510.